หน้าหลัก การแบ่งปัน ควรทำอย่างไรหากถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์

ควรทำอย่างไรหากถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์

โดย ผู้ดูแลระบบ

ควรทำอย่างไรหากถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์

ในปี 2019 พบว่ามีการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์สูงถึง 187 ล้านครั้ง ซึ่งเฉลี่ยแล้วมากกว่า 500,000 การโจมตีต่อวันที่เกิดขึ้นกับธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าองค์กรของคุณจะโชคดีที่ยังไม่เคยถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ หรือเคยประสบเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลมาก่อน การเตรียมความพร้อมล่วงหน้าถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามดังกล่าว การเข้าใจขั้นตอนสำคัญที่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อทีมงาน ธุรกิจ และความเป็นอยู่ของคุณจึงมีความสำคัญมาก ด้านล่างนี้เรานำเสนอภาพรวมสั้นๆ ของขั้นตอนที่องค์กรของคุณควรปฏิบัติเมื่อพบกับการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่กำลังเกิดขึ้น

ขั้นตอนที่ควรดำเนินการเมื่อเกิดการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์

ขั้นตอนแรก: อย่าตื่นตระหนก!

1. **แยกและควบคุมการติดเชื้อ**:
– ถอดระบบซึ่งได้รับผลกระทบออกจากเครือข่าย เพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของแรนซัมแวร์
– ปิดการเชื่อมต่อไร้สายทุกชนิด เช่น Wi-Fi หรือ Bluetooth เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

2. **ประเมินสถานการณ์**:
– ตรวจสอบขอบเขตของการละเมิด เพื่อระบุระบบและข้อมูลที่ได้รับผลกระทบ
– พยายามระบุชนิดของแรนซัมแวร์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับแนวทางการตอบสนองให้เหมาะสม

3. **แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ**:
– แจ้งทีมไอทีและทีมความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ทันที
– ติดต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เช่น ตำรวจท้องที่หรือ FBI เมื่อจำเป็น เพื่อรายงานเหตุการณ์

4. **เรียกทีมรับมือแรนซัมแวร์เข้ามาช่วย**:
– เปิดใช้งานทีมรับมือเหตุการณ์ภายในองค์กรทันที หากมีอยู่
– ถ้าไม่มี ให้พิจารณาจ้างบริษัทความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญด้านแรนซัมแวร์

5. **ประเมินคำขอด้านการจ่ายเงินเรียกค่าไถ่**:
– ตรวจสอบว่าผู้โจมตีได้เรียกร้องการชำระเงินหรือไม่
– ควรระมัดระวังหากจะจ่ายค่าไถ่ เนื่องจากไม่มีการรับประกันว่าข้อมูลจะกู้คืนได้ และอาจเป็นการสนับสนุนกิจกรรมทางอาชญากรรม

6. **กู้คืนข้อมูลจากสำเนาข้อมูลสำรอง**:
– ใช้ข้อมูลสำรองที่สะอาดและทันสมัยเพื่อกู้คืนระบบต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ
– ตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลสำรองเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกบ่อนทำลาย

7. **ลบแรนซัมแวร์และมัลแวร์ออก**:
– ทำความสะอาดและทำให้ระบบต่างๆ ที่ติดเชื้อหมดจด เพื่อกำจัดแรนซัมแวร์และมัลแวร์อื่นๆ ออกให้หมด

8. **ปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัย**:
– ระบุและแก้ไขช่องโหว่ต่างๆ ที่ทำให้เกิดการโจมตีได้
– อัปเดตซอฟต์แวร์ ติดตั้งแพตช์ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับมาตรการรักษาความปลอดภัย

9. **ให้ความรู้และฝึกอบรมพนักงาน**:
– อบรมพนักงานให้สามารถระบุและป้องกันการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ได้
– เน้นย้ำแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ดีที่สุด เพื่อเสริมสร้างการป้องกันของคุณ

10. **ติดตามและทดสอบ**:
– ตรวจสอบเครือข่ายของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อหาสัญญาณของการแทรกซึมเพิ่มเติม
– ดำเนินการทดสอบการเจาะระบบเพื่อค้นหาจุดอ่อนในมาตรการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ของคุณ

11. **รายงานเหตุการณ์**:
– ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ โดยการรายงานเหตุการณ์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคุ้มครองข้อมูล

12. **แผนการสื่อสาร**:
– จัดทำกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อแจ้งพนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยยึดตามข้อผูกพันทางกฎหมายและข้อบังคับ

โปรดจำไว้ว่า มาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ดำเนินการล่วงหน้าคือกุญแจสำคัญในการป้องกันการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ควรสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ อัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอ และให้ความรู้แก่ทีมงานเกี่ยวกับความเสี่ยงจากแรนซัมแวร์ การมีแผนรับมือเหตุการณ์ที่ชัดเจนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการตอบสนองและฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพหลังเกิดการโจมตี

คุณอาจสนใจ